ตรัง ห้างท้องถิ่นตรังวิกฤต! น้ำมันถั่วเหลืองได้โควต้าแค่ 50 ลัง/เดือน ซ้ำต้องซื้อน้ำมันปาล์มจากยี่ปั๊วเติมชั้นวาง

ตรัง-น้ำมันพืชราคาพุ่งโดยน้ำมันพืชในห้างท้องถิ่นขนาดเล็ก เริ่มพบปัญหาสั่งไม่ได้ตามจำนวนมาประมาณ 2 เดือน โดยน้ำมันถั่วเหลืองได้โควต้าแค่เดือนละ 50 ลัง ไม่พอขาย ส่วนน้ำมันปาล์มซื้อจากยี่ปั๊วแทน เพื่อมาเติมชั้นไว้บริการประชาชน ส่วนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ซึ่งมีสัญญากับบริษัทผู้ผลิตน้ำมันพืชไม่ขาดแคลนแต่อย่างใด โดยราคาน้ำมันปาล์มแพงแซงน้ำมันพืชจากถั่วเหลือง ขณะที่ทุกห้างพยายามขายตรึงราคา หรือลดราคา เพื่อช่วยเหลือลูกค้า เพราะเห็นเป็นสินค้าจำเป็น 

นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง มอบหมายเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาและการจำหน่ายน้ำมันพืชในห้างสรรพสินค้าต่างๆในจ.ตรัง ทั้งห้างท้องถิ่นขนาดเล็ก และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โดยพบว่าราคาน้ำมันพืชมีการปรับราคาสูงขึ้นทุกยี่ห้อทุกประเภท

ทั้งนี้ ห้างท้องถิ่นขนาดเล็ก พบว่าชั้นวางจำหน่ายน้ำมันพืชมีพื้นที่ว่างจำนวนมาก โดยพนักงานให้ข้อมูลว่า น้ำมันพืชประเภทถั่วเหลือง ทางห้างสั่งมาจำหน่ายเพียง 2 ยี่ห้อเท่านั้น ( กุ๊ก องุ่น) โดยขนาดบรรจุขวด 1 ลิตร เริ่มประสบปัญหาสั่งไม่ได้ตามจำนวนมานานประมาณ 2 เดือนแล้ว โดยทางบริษัทผู้ผลิตที่ติดต่อซื้อขายกันประจำนั้น จำกัดโควต้าขายมาให้แค่ 50 ลังต่อเดือนเท่านั้น ทำให้มีไม่พอขาย โดยทางบริษัทแจ้งว่าไม่มีสินค้า ต่อให้ซื้อเงินสดก็ไม่มี จึงขายเท่าที่มี หมดก็ต้องรอสั่งใหม่ในเดือนหน้า ไม่สามารถสั่งเพิ่มได้ ซึ่งห้างท้องถิ่นเป็นเช่นเดียวกันทุกแห่ง ส่วนสินค้าล๊อตใหม่ที่จะสั่งในเดือนหน้ายังไม่ทราบว่าราคาจะปรับขึ้นอีกหรือไม่ เพราะต้องรอทางบริษัทเคาะราคาตอนสิ้นเดือนด้วย ขณะที่น้ำมันถั่วเหลืองขวดเล็กขนาดบรรจุ 230 ซีซี ( กรัม) ซึ่งเหลือไม่กี่ขวด โดยทางบริษัทแจ้งว่าต้องเลิกผลิตชั่วคราว ส่วนจะมีปัญหาไปนานแค่ไหนไม่สามารถทราบได้ ทางห้างจึงจำกัดการซื้อน้ำมันถั่วเหลืองอยู่ที่คนละไม่เกิน 6 ขวด

พนักงานห้าง บอกอีกว่า ในส่วนของน้ำมันปาล์ม จากเดิมเคยสั่งครั้งละ 300-400 ลัง แต่ตอนนี้สั่งมากไม่ได้ ทางห้างจึงแก้ปัญหาด้วยการซื้อจากยี่ปั๊วที่มาเสนอขายแทน ได้เท่าไหร่ก็นำมาเติมที่ชั้น เพื่อให้มีบริการประชาชน จึงยังมีจำหน่ายเพียงพอ และยังไม่ได้จำกัดการซื้อ ส่วนราคาจำหน่ายน้ำมันพืชทั้ง 2 ประเภท ทางห้างเห็นว่าเป็นสินค้าจำเป็น จึงพยายามตรึงราคาเดิมไว้ไม่ให้กระทบกับลูกค้ามากนัก เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ขายขวดละ 54 -55 บาท ( หากขายตามราคาที่ซื้อมาจะต้องอยู่ที่ขวดละ 58-59 บาท) โดยจำกัดการซื้อคนละไม่เกิน 6 ขวด แต่น้ำมันปาล์มขวด ราคาจะสูงกว่าน้ำมันถั่วเหลืองขายขวดละ 58-59 บาท ( หากขายราคาปกติจะสูงขวดละประมาณ 61-63 บาท) ไม่ได้จำกัดการซื้อ ส่วนน้ำมันปาล์มถุง ราคาถุงละ 57 บาท โดยทั้งหมดทางห้างไม่ขายยกลัง เพื่อต้องการกระจายสินค้าให้ถึงมือครัวเรือน

ส่วนที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งมีสัญญากับบริษัทผู้ผลิตน้ำมันพืช พบว่าน้ำมันพืชทั้งน้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลืองยังมีปริมาณมากตามปกติไม่ขาดแคลนแต่อย่างใด แต่ราคามีการปรับขึ้นทุกชนิด

โดยพนักงาน บอกว่า โดยปกติจะสั่งซื้อน้ำมันพืชทุกๆ 3 วัน และยังสามารถสั่งซื้อได้ตามปกติไม่ขาดแคลนแต่อย่างใด แม้ราคาน้ำมันพืชจะปรับราคาสูงขึ้น แต่ทางห้างก็ได้ลดราคาขาย เพื่อช่วยเหลือลูกค้า ซึ่งแต่ละยี่ห้อราคาไม่เท่ากัน โดยน้ำมันถั่วเหลือง ขายขวดละ 56 – 63 บาท เช่น บางยี่ห้อลดราคาขายขวดละ 60 บาท จากราคาปกติขวดละ 66 บาท ส่วนน้ำมันปาล์มขวดละ 57- 59 บาท (จากบางยี่ห้อปกติขวดละ 61 บาท) โดยจำกัดการซื้อรายละไม่เกิน 6 ขวด/ยี่ห้อ

ขณะที่ห้างสาขาย่อยของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ก็พบว่า มีการจำกัดการซื้อของลูกค้าไม่เกินคนละ 3 ขวด