\”ภูมิธรรม\” บินด่วนลงพื้นที่ จ.สระแก้ว แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เตรียมสร้างกำแพงยาว 55 กม.ชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว – รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง บินด่วนลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ติดตามการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระบุเตรียมสร้างกำแพงยาว 55 กม.ชายแดนไทย-กัมพูชา 
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่่ 12 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม ร.12 พัน 3 รอ. อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวงค์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา หน่วยงาน กสทช. ,ทหาร ,ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อประชุมติดตามการปฏิบัติงานและแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยมีนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว รายงานสถานการณ์ในภาพรวมของจังหวัด ขณะที่ พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 รายงานการซีลพื้นที่ชายแดนภายใต้เขตรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 ตามนโยบาย Seal Stop Safe และ พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 รายงานผลการปราบปรามยาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (คอลเซ็นเตอร์) การกำกับดูแลคนเดินทางเข้าออกชายแดน และการปราบปรามการค้ามนุษย์ ในพื้นที่อำเภอแนวชายแดนจังหวัดสระแก้ว ทั้ง 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.อรัญประเทศ ตาพระยา โคกสูง และคลองหาด
\"\"
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.(ไซเบอร์) ได้รายงานผลและแนวทางการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ ร่วมกับ ผู้แทนของ กสทช. ที่รายงานผลการตัดสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ รวมทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสระแก้ว ได้รายงานสถานการณ์การส่งกระแสไฟฟ้าไปยังประเทศกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา โดยผู้แทนสมาคมธนาคารไทยจังหวัดสระแก้ว ได้มีการรายงานสถานการณ์การเปิดบัญชีธนาคารของคนไทยในพื้นที่ จ.สระแก้ว หรือ บัญชีม้า ให้รองนายกรัฐมนตรีและทีมงานรับทราบปัญหาด้วย
\"\"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมฯ รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เนื่องจากหัวใจสำคัญของเรื่องนี้หากสามารถจัดการได้เพราะโลกเปลี่ยนแปลงมาก ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัญหายาเสพติดเป็นเป้าหมายที่ต้องเร่งดำเนินการเพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระยะหลังกระทบไปทั่วโลก ในพื้นที่เมียนมาเขาไม่สามารถบุกเข้าไปเครียร์กับเมียนมาร์หรือแก้ปัญหาได้ มีหลายประเทศได้รับผลกระทบ ทั้งบังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ อเมริกาใต้ และยุโรป ซึ่งเราได้รับการประสานงานจากสถานทูตของประเทศต่าง ๆ ขอให้ช่วยดำเนินการ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานทุกระดับช่วยกันดำเนินการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเข้มงวด
\"\"
โดยนายภูมิธรรมฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ที่ประชุมมีข้อเสนอให้มีการก่อสร้างกำแพงรั้วตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระยะทาง 55 กม.เพื่อสกัดกั้นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาการลักลอบข้ามแดน อยู่ระหว่างตรวจสอบและศึกษาว่าจะสร้างในลักษณะแบบไหน สามารถป้องกันปัญหาเรื่องอะไรได้บ้าง ซึ่งจะต้องไปดูรายละเอียด ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็มีตัวอย่างในหลาย ๆ ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จึงต้องขอกลับไปดูก่อนว่า จะเป็นกำแพงแบบไหน ขณะเดียวกัน แนวชายแดนที่ยาว การที่จะเพิ่มกำลังพลก็คงทำได้ยาก อาจจะเพิ่มโดรนและอุปกรณ์ที่สามารถตรวจสอบการลักลอบข้ามแดนได้ รวมทั้งนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพควบคู่กันไป ส่วนการตัดสายสัญญานโทรศัพท์และอินเทอร์เนตนั้น จะต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับคนไทยในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะตลาดเบญจวรรณ ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบ กสทช.กำลังดำเนินการอยู่ซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิค ส่วนการเอาผิดกับผู้ที่ทำผิดอาจจะต้องเอากฎหมายพิเศษ และ ปปช.มาร่วมด้วย
\"\"
สำหรับการใช้มาตรการการตัดไฟฟ้าและน้ำมัน ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชานั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทางรัฐมนตรีกลาโหมของกัมพูชา ได้โทรศัพท์มาพูดคุยระหว่างที่มีการประชุม โดยบอกว่า หากมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงขอให้มีการพูดคุยกันซึ่งทางกัมพูชายินดีสนับสนุนทุกอย่าง และไทย-กัมพูชา จะมีการประชุมร่วม JBC ที่จะมีขึ้นทาง รัฐมนตรีกลาโหมของกัมพูชาก็จะเดินทางมาร่วมประชุมด้วย ซึ่งต้องของคุณกัมพูชาที่สะท้อนมาที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหา ซึ่งจะดำเนินการอย่างไรก็อยู่ที่ขอเสนอแนะของที่ประชุมผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งคงไม่สามารถทำได้เหมือนกับที่ทำทางชายแดนไทย-พม่า ซึ่งการตัดไฟนั้น คงไม่สามารถทำได้ทั้งหมดเพราะกัมพูชาไม่ได้ใช้ไฟจากเราทั้งหมด เพราะจริง ๆ ที่เราทำคือแค่ 5 จุดที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นภัยจากสมองมนุษย์ที่ทำร้ายคนทั้งโลก ส่วนสิ่งที่เราทำคือเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมไม่ให้กิจกรรมที่ผิดกฎหมายทำได้ยาก ซึ่ง 6 เดือนที่ผ่านมาเราดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด คอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ เพราะเป็นปัญหาเดียวกัน ดังนั้น การซีลชายแดน 51 อำเภอ 76 สถานีตำรวจ เราทำกำแพง 2 ชั้นเพื่อแก้ปัญหาในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน พื้นต่าง ๆ หรือเอกชน ที่ไม่ให้ความร่วมมือหรือละเลย ถือว่า เป็นผู้ร่วมขบวนการ
\"\"
อย่างไรก็ตาม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีที่มีการตรวจพบซิมมือถือว่า 1,000 ชิ้น ถูกทิ้งแนวชายแดนว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ เบื้องต้น เป็นซิมการ์ดที่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน หรือลงทะเบียน ฉะนั้น อะไรที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ซึ่งต้องยืนยันตัวตน เราอยู่ระหว่างดำเนินกาตรวจสอบซิมการ์ดทั้งหมดว่า มีที่ไปส่วนมาตรการในการป้องกันไม่ให้เอาซิมจำนวนมากมาใช้งานนั้น มีการตรวจสอบตลอดเวลา ซิมที่ใช้ภายในประเทศต้องมีการยืนยันตัวตน เรามีมาตรการว่า บุคคลที่มีซิมเกินกว่า 5 ซิม ต้องมาแสดงตน คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือเกินว่า 100 ครั้งต่อวัน ต้องมาชี้แจงว่า ใช้ในธุรกิจธุรกรรมอะไร
\"\" \"\"
——————————-